5 อันดับศูนย์กู้ข้อมูลยอดนิยมในประเทศไทย

5 อันดับศูนย์กู้ข้อมูลยอดนิยมในประเทศไทย

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจของตัวฮาร์ดดิสก์ (HDD) กันก่อนค่ะ ตัวฮาร์ดดิสก์ เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้แม่เหล็กในการเก็บข้อมูลดิจิทัลบนแผ่นดิสก์หมุนเร็ว ซึ่งเรียกว่าพลาตเตอร์ ที่หมุนอยู่ภายใต้หัวอ่าน/เขียนที่เคลื่อนที่ได้ ฮาร์ดดิสก์ถูกใช้เป็นหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์เพราะสามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากและเก็บข้อมูลไว้ได้ถาวร แม้ว่าจะปิดเครื่องไปแล้วก็ตาม ผู้คนใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูลเช่น โปรแกรมแอพพลิเคชัน และไฟล์สื่อต่างๆ

มีหลายคนกำลังเจอปัญหา ฮาร์ดดิสก์เสียเปิดไดรฟ์ไม่เจอ ซึ่งมีไฟล์สำคัญๆในนั้นเยอะเลย แต่ไม่รู้จะเอาไปกู้ข้อมูลกลับคืนมาที่ไหนดี วันนี้เราเลยจะมาแชร์ ศูนย์กู้ข้อมูล 5 อันดับที่ยอดนิยมในประเทศไทย ที่หลายคนใช้บริการแล้วดีมากๆค่ะ

1.ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery กู้ข้อมูลอันดับหนึ่ง

CR Data Recovery การันตีด้วยประสบการณ์การกู้ข้อมูลมานานกว่า 20 ปี โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการกู้ข้อมูลโดยเฉพาะทั้ง PC , Notebook , External Hard Drive , SSD , Raid และอื่นๆ สำหรับใครที่กังวลว่าข้อมูลลูกค้าจะรั่วไหลไหม ทางศูนย์ยืนยันการให้บริการทุกการกู้ข้อมูลขึ้นมาจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ 100%  บริการลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำมากกว่า 100 บริษัทในประเทศไทย ใครที่ใช้บริการ ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลปลอดภัยแน่นอน

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : www.crecover.com

ที่ตั้ง : 238/48 ชั้น 5 อาคารศรีวราแมนชั่น 2 ซ.นาทอง 3 ถ.รัชดาภิเษก แขวง/เขต ดินแดง กทม.10400

เบอร์ติดต่อ : 062-919-7966 , 093-093-5553

Line : @crecover

 

2. ศูนย์กู้ข้อมูล IDR LAB กู้ข้อมูลที่ดีที่สุดอันดับ 1

IDR LAB เป็นศูนย์กู้ข้อมูลห้อง lab ให้บริการกู้ข้อมูล HDD อุปกรณ์ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ความเสียหายต่างๆ สำหรับข้อมูลของลูกค้าทางศูนย์รักษาความลับ ป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้จริงด้วยคุณภาพ ISO 9001:2015 มาตรฐานสากล

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.idrlab.com/research-director

ที่ตั้ง : เลขที่ 4 ซอยบางนา-ตราด25 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

เบอร์ติดต่อ : 02-744-1911

Line : @idrlab

 

3. ศูนย์กู้ข้อมูล CHIN Data Recovery

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 18 ปี ศูนย์ CHIN Data มีความเชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูล ทั้งยังให้ความสำคัญกับข้อมูลที่จะกู้ได้ และไม่ทำความเสียหายใดๆ เพิ่มเติมลงไป ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย กู้ข้อมูลด้วย Cleanroom ที่ได้รับสามารถโทรปรึกษา เพื่อประเมินปัญหาเบื้องต้นได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.chindata.com/

ที่ตั้ง : 606 ถนน ซอยสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000

เบอร์ติดต่อ : 081-422-4150

Line : 0814224150

 

4. ศูนย์กู้ข้อมูล ATL Data Recovery รับกู้ข้อมูล อันดับ1 ดีที่สุด ส่งเช็คฟรี

 

หากกำลังมองหาศูนย์กู้ข้อมูล ATL Recovery รับกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์เสีย กู้ข้อมูล NAS Synology Qnap กู้ข้อมูลเมมโมรี่การ์ด SD Sandisk Kingston และหน่วยความจำทุกชนิด ส่งเช็คฟรี ให้บริการกว่า 5 หมื่นเคส มีสัญญารักษาความลับ ของลูกค้าที่ชัดเจน

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.atlrecovery.net/

ที่ตั้ง : สำนักงาน อาคาร Exchange Tower ชั้น 29

จุดรับส่งสาขาย่อย : อาคาร The Metropolis สำโรง ชั้น 3

เบอร์ติดต่อ : 081-318-4466

Line : @ATLRecovery

 

5. ศูนย์กู้ข้อมูล AJ.RECOVERY

AJ.RECOVERY ให้บริการกู้ข้อมูล Computer Harddisk , External Harddisk หรือ Server Harddisk  แม้แต่เคสที่ข้อมูลถูกลบ หรือ formatไป

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.ajrecoveryservice.com/

ที่ตั้ง : 29 BBC Building ซ.สุขุมวิท 63(เอกมัย) ถ.สุขุมวิท

คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. 10110.

เบอร์ติดต่อ : 083-893-0209

Line : @600atkrv

 

สุดท้ายนี้การเลือกศูนย์กู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์ เป็นสิ่งสำหรับที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญของเราจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยเหมาะสม

5 อันดับโกจิเบอร์รี่ดำยอดนิยมในไทย

5 อันดับโกจิเบอร์รี่ดำยอดนิยมในไทย

บางท่านอาจจะรู้จักกับเก๋ากี้แดงมาบ้างแล้วแต่ว่าเก๋ากี้แดงกับเก๋ากี้ดำต่างกันอย่างไรหากพูดถึงชื่อเก๋ากี้แดงหรือโกจิเบอร์รี่แดงบางคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไรมันต่างกันอย่างไร

เก๋ากี้แดงเป็นผลไม้สีแดงสดจึงได้ชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า ฮ้วยกี้ อดีตนั้นเป็นผลไม้บรรณาการสำหรับฮ่องเต้ชาวจีนที่เรารู้จักกันในสมุนไพรชนิดนี้เป็นอย่างดีสมุนไพรชนิดนี้มีการนำมาใช้รับประทานเล่นหรือนำมาปรุงอาหารที่มีสรรพคุณทางยาช่วยบำรุงร่างกาย นอกเหนือไปจากนั้นก็ยังสามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้เปิดทุกวันนี้รู้จักกันแพร่หลายในชื่อหนึ่งคือโกจิเบอรี่ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ชาวตะวันตกได้รู้จัก และศึกษาคุณประโยชน์ของลูกเก๋ากี้อย่างจริงจัง

ทำไมเก๋ากี้ดำจึงเป็นสีดำ เนื่องจากในเก๋ากี้ดำมีสารแอนโธไซยานิน เหมือนดอกอัญชันที่ต้านอนุมูลอิสระสูง และมีแร่ธาตุในตัวสูงมาก จึงมีการทำให้เก๋ากี้มีเมล็ดเป็นสีดำนั้นและเวลาที่ชงน้ำจึงจะกลายมาเป็นออกสีฟ้า ม่วง หรือชมพูก็ได้นั่นเอง โกจิเบอร์รี่สีแดง และ โกจิเบอร์รี่สีดำ สรรพคุณของทั้ง 2 อย่างนั้นมีลักษณะความแตกต่างที่น่าสนใจ

โกจิเบอร์รี่ หรือ  Chinese  Wolfberry สวัสดีรู้จักการทางเภสัชศาสตร์ว่าเป็นพืชในตระกูล Lycium Barbarum มีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศจีน อุดมไปด้วยคุณค่าด้านสารอาหาร ที่สำคัญได้แก่ สังกะสี เหล็ก ทองแดง แคลเซียม ฟอสฟอรัส   ซิลิเนียม และ เจอร์มาเนี่ยม  แต่โกจิเบอร์รี่ดำ นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าโกจิเบอร์รี่โดยเฉพาะ ธาตุเหล็ก ทองแดง สังกะสี แมกนีเซียม และ แอนโธไซยานิน เป็นสารสีม่วงในผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันในสมองชะลอความเสื่อมของดวงตาเป็นต้น นะว่ากูจิเบอร์รี่บนโลกนี้จะมีมากถึง  41  สายพันธุ์ แต่ที่นิยมและมีสรรพคุณที่ดีที่สุดต้องเป็นสายพันธุ์ที่นำมาจากจีนหรือทิเบต อันดับความเป็นมาแสนยาวนานของเก๋ากี้ที่เคียงข้างประวัติของแดนมังกร

คุณลักษณะของเก๋ากี้ดำตามแบบแพทย์แผนจีน มีรสหวาน ฤทธิ์กลาง ออกฤทธิ์ตามเส้นลมปราณของตับ ไต และปอด เก๋ากี้ดำ จัดเป็นพืชหายาก ปลูกได้ในเฉพาะแถบทะเลทรายตะวันตกของประเทศจีนเท่านั้นโภชนาการสูง

กลไกการออกฤทธิ์คือบำรุงไตหล่อเลี้ยงสารจำเป็น ปกป้องตับ บำรุงเลือด บำรุงสายตาทำไมภาพเห็นที่กระจ่างชัด  แก้ไอจากปอดร้อน บำรุงเลี้ยงผิวพรรณให้ ดูธรรมชาติ  และบทความนี้เราจะมานำเสนอ และรีวิวสินค้าของแบรนด์ยอดนิยมของแบรนด์ต่างๆ  ที่นำเก๋ากี้ดำมาจัดจำหน่าย ในราคาที่จับต้องได้และไม่แพงมาก

มาเริ่มที่แบรนด์แรกกันดีกว่าค่ะ

อันดับที่ 1 Herbal Fruits แบรนด์ที่คนรีวิวแนะนำเลยค่ะ นั้นก็คือ

โกจิเบอร์รี่ดำ (Black Goji Berry) เก๋ากี้ดำ เกรด Premium ของ Herbal fruits

ลักษณะโดดเด่นและรายละเอียดของสินค้าของ Herbal fruits

– 1 กระปุก ประกอบด้วยโกจิเบอร์รี่ดำ 55 กรัม

วิธีการรับประทาน

แช่น้ำเพื่อรับประทาน : ผสมกับน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นในปริมาณเพียง 1 กรัมต่อแก้วกาแฟ ( อุณหภูมิที่ร้อนเกินไปจะทำลายสาร anothcyanins ที่มีประโยชน์ในโกจิเบอร์รี่สีดำได้ควรใช้อุณหภูมิประมาณ 50-75 องศา ) รอประมาณ 5 นาทีก่อนจะดื่มให้หมด และค่อยรับประทานเม็ดโกจิเบอร์รี่สีดำต่อ

( หลังจากโกจิเบอร์รี่สีดำได้เจือจางทำให้เม็ดมีสีจางลง ) สามารถผสมน้ำผึ้งดื่มเพื่อเพิ่มรสชาติได้

-ผสมกับไวท์ : สามารถผสมเพื่อดื่มกัน Wine เพื่อเพิ่มรสชาติและสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 30 วัน

ขนาดรับประทาน

– รับประทานวันละ 3 – 5 กรัม ต่อวัน

– อายุผลิตภัณฑ์ : 1 ปี (นับจากวันผลิต)

การเก็บรักษา : เก็บในที่แห้ง อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ห่างจากแสงแดด หรือเก็บในตู้เย็น

จากที่ริวิวมานั้น ทาง Herbal fruits ได้คัดสรร เมล็ดเก๋ากี้ดำ ระดับบพรี่เมี่ยมมาอย่างดีค่ะชงดื่มก็อร่อยใส่กับไวน์ตามที่ แบนรด์แนะนำมาก็กลมกล่อมมากๆค่ะราคาก็ไม่แพงแถม คุ้มมากกับปริมาตรที่ให้มา

ที่นี่มาดูสรรพคุณและประโยนช์ของ โกจิเบอร์รี่ดำกันค่ะ

สรรพคุณและประโยชน์ของโกจิเบอร์รี่ดำ

สาร antioxidant มีมากกว่าโกจิเบอร์รี่ธรรมดา 50 เท่า จะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าโกจิเบอร์รี่แบบธรรมดาซึ่งจะช่วยในการบำรุงสุขภาพ

1.คุณค่าจากวิตามิน C มากกว่า 20 เท่า

2.คุณค่าจากวิตามิน E มากกว่า 50 เท่า

3.มีสารอาหารมากกว่า บลูเบอร์รี่  18 เท่า

4.มีส่วนประกอบของกลูโคไซด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ชลอความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มภูมิต้านทาน ชลอความชรา

5.มีสารแอนโธไซยานินซึ่งมีมากในเก๋ากี้ดำช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยจำกัดการแพร่ขยายของเซลล์มะเร็ง

6.แอนโธไซยานีนช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง

7.แอนโธไซยานีนในเก๋ากี้ดำ ช่วยปกป้องผิวหนังจากริ้วรอยที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ทรงประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระ

8.มีสารลูทีนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ป้องกันการล้าของสายตา

ผลเก๋ากี้ดำช่วยป้องกันและรักษาเบาหวาน ปกป้องตับ ต่อต้านเนื้องอก ปกป้องหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ

จากตามทฤษฎีของ TCM ซึ่งพบว่าโกจิเบอร์รี่สีดำจะช่วยบำรุงทั้งในด้านตับและไต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความอดทนให้เหนื่อยยากและบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี ด้านสารอาหารซึ่งโกจิเบอร์รี่ดำจะมีสาร antioxidant ธรรมชาติอยู่สูงจึง ทำให้ตัวผลมีสีออกดำๆม่วงๆซึ่งจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า สาร antioxidant เหล่านั้นมีมากกว่าโกจิเบอร์รี่ธรรมดา 50 เท่า จะสามารถดูดซึมได้ดีกว่าโกจิเบอร์รี่แบบธรรมดาซึ่งจะช่วยในการบำรุงสุขภาพ

  • คุณค่าจากวิตามิน C มากกว่า 20 เท่า
  • คุณค่าจากวิตามิน E มากกว่า 50 เท่า
  • มีสารอาหารมากกว่า บลูเบอร์รี่ 18 เท่า
  • มีส่วนประกอบของกลูโคไซด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ชลอความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มภูมิต้านทาน ชลอความชรา
  • มีสารแอนโธไซยานินซึ่งมีมากในเก๋ากี้ดำช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยจำกัดการแพร่ขยายของเซลล์มะเร็ง
  • แอนโธไซยานีนช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง
  • แอนโธไซยานีนในเก๋ากี้ดำ ช่วยปกป้องผิวหนังจากริ้วรอยที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ทรงประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระ
  • มีสารลูทีนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ป้องกันการล้าของสายตา
  • ผลเก๋ากี้ดำช่วยป้องกันและรักษาเบาหวาน ปกป้องตับ ต่อต้านเนื้องอก ปกป้องหัวใจและหลอดเลือดหัวใจ
  • จากตามทฤษฎีของ TCM ซึ่งพบว่าโกจิเบอร์รี่สีดำจะช่วยบำรุงทั้งในด้านตับและไต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความอดทนให้

โกจิเบอร์รี่ดำของ Herbal fruits นั้นเป็นเกรดระดับ Premium ซึ่งทาง Herbal fruits

ได้คัดสรรคุณภาพของโกจิเบอร์รี่สีดำนั้นมาจากจีนและทิเบต ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่อยากให้หลายๆท่านได้ลองสั่งซื้อมาชงดื่มรับประทานกันค่ะ เหมาะสำหรับท่านที่กำลังมองหา อาหารเสริมมารับประทานบำรุงร่างกายเด็กๆ ก็สามารถรับประทานได้และยังสั่งซื้อไปให้แกผู้เฒ่าผู้แก่ที่คุณรักได้อีก นึกถึง โกจิเบอร์รี่ดำ ระดับคุณภาพดีเยี่ยมนึกถึง

Herbal fruits ค่ะ เพราะเขานำแต่อาหารเสริมดีๆมาให้เรารับประทานกันและราคาก็สามารถจับต้องได้ไม่แพงด้วยค่ะ ถ้าท่านไหนต้องการสั่งซื้อ สามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์หลักของ Herbal Fruits (www.herbalfruits.com)

หรือ Lazada Shopee ก็ได้เช่นกันค่ะ

อันดับที่ 2 ESInternational

ลักษณะโดดเด่นและรายละเอียดของสินค้าของ esinternational

โกจิเบอร์รี่ หรือ เก๋ากี๊ แบบอบแห้ง ลักษณะเม็ดยาวรี มีสีแดงอมส้ม ข้างในมีเม็ดเล็กๆ มีรสเปรี้ยวและหวานเล็กน้อย

สารอาหาร:  มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง  กากใยอาหารสูง อุดมด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิด

คุณประโยชน์:  ช่วยบำรุงสายตา

ส่วนประกอบสำคัญ: โกจิเบอร์รี่ดำ

วิธีรับประทาน: ทานเล่น ทานกับโยเกิร์ต นม หรือเป็นท้อปปิ้งใส่ในกราโนล่า สามารถนำไปต้มหรือตุ๋นได้

-บรรจุในถุงปิด ขนาด500กรัม

-ราคาไม่แพงมาก

จากที่ริวิวมานั้น ตัวสินค้านั้นค่อนข้างบรรจุมาอย่างดีแถมราคาไม่แพงมากค่ะ

อันดับที่ 3 Giantherb

ลักษณะโดดเด่นและลายละเอียดของสินค้าของ giantsherb

โกจิเบอร์รี่ อุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุมากมาย เช่น

วิตามิน C , ไฟเบอร์ ,ธาตุเหล็ก,วิตามิน A,สารต้านอนุมูลอิสระ

ทั้งนี้ ยังอุดมไปด้วยกรดอะมิโนทั้ง 8 ชนิด ที่จำเป็นต่อร่างกาย การรับประทานเก๋ากี้เพียง 115 กรัม ต่อวัน

สามารถให้โปรตีนแก่ร่างกายได้มากเท่ากับ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่ร่างกายต้องการต่อวัน

-บรรจุในถุงพลาสติกซีน ปริมาตร 50 กรัม

-ราคาถูกมาก

จากที่ริวิวมานั้น เป็นอีกหนึงแบรนด์ในระดับกลางที่ราคาถูกมากค่ะ

อันดับที่ 4 Miracle Bangkok

ลักษณะโดดเด่นและลายละเอียดของสินค้าของ miracle bangkok

โกจิเบอร์รี่/เก๋ากี้ดำ ของแท้ แบล็กเบอร์รี่ดำ เก๋ากี้ดำอบแห้ง เม็ดใหญ่ คุณภาพดี

-บรรจุถุงมีหลายขนาดตั้งแต่ 100กรัม/250กรัม/500กรัม

-เกรดในระดับกลาง

จากที่ริวิวมานั้น ตัวสินค้าได้บรรจุถุงมาหลายขนาดปริมาตร และราคาเองก็ไล่ๆตั้งแต่

55 – 270 ฿ ถือว่าไม่แพงมากค่ะ

อันดับที่ 5 MBboy

ลักษณะโดดเด่นและลายละเอียดของสินค้าของ mbboy

ชาเก๋ากี้ดำ นำเข้าจากญี่ปุ่น (Japan Quality 100%) แตกต่างจากเกรดทั่วไปในตลาดที่นำเข้าจากจีน

  • ลดน้ำตาลในเลือด
  • ลดความดันโลหิต
  • บำรุงฟื้นฟูไต บำรุงตับ บำรุงปอด
  • บำรุงหัวใจ บำรุงเลือด
  • อายุยืน แข็งแรง
  • เสริมสร้างภูมิต้านทานโรค / ปรับภูมิคุ้มกัน
  • ไขมันอุดตันตามเส้นเลือด
  • บำรุง ตับ ไต ปอด หัวใจ และสมอง
  • ขับสารพิษในร่างกาย
  • วิตามิน C มากกว่า 20 เท่า
  • วิตามิน E มากกว่า 50 เท่า
  • มีสารอาหารมากกว่า บลูเบอร์รี่ 18 เท่า
  • สารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติชลอความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มภูมิต้านทาน ชลอความชรา
  • มีส่วนประกอบของกลูโคไซด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ ชลอความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มภูมิต้านทาน ชะลอความชรา
  • มีสารแอนโธไซยานินซึ่งมีมากในเก๋ากี้ดำช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ ช่วยจำกัดการแพร่ขยายของเซลล์มะเร็ง
  • แอนโธไซยานีนช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งแรง
  • แอนโธไซยานีนในเก๋ากี้ดำ ช่วยปกป้องผิวหนังจากริ้วรอยที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ทรงประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระ
  • มีสารลูทีนช่วยในการมองเห็น บำรุงสายตา ป้องกันการล้าของสายตา
  • ผลเก๋ากี้ดำช่วยป้องกันและรักษาเบาหวาน ปกป้องตับ ต่อต้านเนื้องอก ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดต่างๆ เช่นหลอดเลือดหัวใจ หรือ สมองอุดตัน
  • ช่วยบำรุงทั้งในด้านตับและไต อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความอดทนให้เหนื่อยยากและบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี

วิธีการรับประทาน

  1. แช่น้ำอุ่นเพื่อรับประทาน : น้ำอุ่นในปริมาณเพียง 1 กรัมต่อแก้วกาแฟ ( อุณหภูมิที่ร้อนเกินไปจะทำลายสาร anothcyanins ที่มีประโยชน์ในโกจิเบอร์รี่สีดำได้ควรใช้อุณหภูมิประมาณ 50-75 องศา ) รอประมาณ 5 นาทีก่อนจะดื่มให้หมด และค่อยรับประทานเม็ดโกจิเบอร์รี่สีดำ

จากที่ริวิวมานั้น เป็นสินค้าที่มีคุณภาพอยู่ในระดับดีเลยค่ะ นำเข้าจากญี่ปุ่น แถมราคาก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่แพงไป

วันนี้ก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ค่ะ ตอนนี้อันดับหนึ่งที่ยกให้ก็คงหนีไม่พ้นโกจิเบอร์รี่ดำของแบรนด์ Herbal Fruits

ถ้าท่านไหนต้องการสั่งซื้อ สามารถเข้าไปได้ที่เว็บไซต์หลักของ Herbal Fruits (www.herbalfruits.com)

หรือ Lazada Shopee ก็ได้เช่นกันค่ะ