5 เหตุผลที่ควรมี SSD พกพาติดโต๊ะทำงาน

เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์มาเยอะแล้ว และคงเคยได้ยิน Solid State Drive (SSD) มาก่อนแล้วเหมือนกัน SSD คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานร่วมกันกับ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค หรือ แล็ปท็อปโดยเฉพาะ เช่นเดียวกันกับอุปกรณ์ ที่เรียกว่า Flash Drive หรือ Thumb Drive  ต่อมาได้มีการคิดค้นและสร้าง ( External SSD ) เป็นอุปกรณ์เสริมแบบพกพา เพื่อตอบโจทย์กับการใช้งานของผู้คนมากขึ้น ทั้งใช้เก็บข้อมูลไฟล์ส่วนตัวและงานบริษัท จนได้รับความนิยมมากในยุคปัจจุบัน วันนี้เลยรวมรวบ 5 เหตุผลที่เราควรมี SSD พกพา ติดโต๊ะทำงาน ไว้เผื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อมาใช้งาน

 

1. ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล

SSD พกพา มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงมากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับ HDD และ flash drives ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องโอนไฟล์ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องเข้าถึงข้อมูลบ่อยๆ หรือเปิดไฟล์ที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูง เช่น การตัดต่อวิดีโอ รูปภาพ หรือการทำงานด้านกราฟิก นอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาในการโอนข้อมูลหรือเปิดไฟล์ใหญ่ ๆ ลงได้มาก ทำให้เรามีเวลามากขึ้นในการทำงานที่สำคัญๆ

 

 

2. ความทนทาน

SSD พกพานั้นมีความทนทานกว่า HDD หรือฮาร์ดดิสก์แบบดั้งเดิมเพราะว่า SSD ใช้หน่วยความจำแบบไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวขณะทำงานเรียกว่า NAND flash memory จึงทำให้ SSD ไม่มีปัญหาเรื่องชิ้นส่วนสึกหรอหรือเสียหายจากการกระแทกหรือเคลื่อนที่อย่างรุนแรง ทนต่อการสั่นสะเทือนได้ดีกว่าฮาร์ดไดรฟ์แบบดั้งเดิม เช่น ถ้าเราทำ SSD ตกหรือกระแทกขณะที่เครื่องทำงานอยู่ เครื่องก็ไม่น่าเกิดความเสียหายเหมือนที่ HDD อาจเจอได้ ทำให้ SSD นั้นเหมาะสำหรับการพกพาและใช้งานในสภาวะที่ต้องการความทนทานสูง

 

 

3. ไม่มีเสียงรบกวน

SSD ไม่มีมอเตอร์กลไก พัดลม หรือส่วนประกอบที่เคลื่อนไหวเหมือนฮาร์ดดิสก์แบบเดิมๆ จึงทำให้ระหว่างการทำงานของเครื่องมีค่าเสียงรบกวนคือ 0 เดซิเบล ตัว SSD ใช้ชิปหน่วยความจำแฟลชโดยไม่มีชิ้นส่วนกลไก จึงมีลักษณะของการสร้างความร้อนต่ำและกระจายความร้อนได้รวดเร็ว สำหรับคนที่ชอบความเงียบ ต้องใช้สมาธิในการทำงาน ตัว SSDพกพาตอบโจทย์มากๆ

 

4. พกพาไปได้ทุกที่

ด้วยความที่ SSD พกพามีขนาดที่เล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา และมีความทนทานต่อการตกกระแทกได้ดีกว่า HDD พกพา  ทำให้ SSD นั้นเหมาะสำหรับการพกพาและใช้งานในสภาวะที่ต้องการความทนทานสูงได้ทุกที่ทุกสถานการณ์ พกพาไปไหนมาไหนก็สะดวก ทั้งยังช่วยลดความกังวลเรื่องข้อมูลหายจากการกระแทกหรือตกลงไปได้ดีเลยทีเดียว

 

 

5. ไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงข้อมูล

เมื่อโลกยุคเทคโลโลยีมีการพัฒนามากขึ้น รวมทั้งมีอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างกว้างขวาง การสำรองข้อมูลบน Cloud หรือที่เรียกว่า Cloud Storage ก็เริ่มมีบทบาทขึ้นมา Cloud Storage คือ การเก็บข้อมูลโดยใช้พื้นที่บนโลกออนไลน์ ผ่าน Server ของผู้ให้บริการ เช่น Google Drive, Dropbox, ICloud Drive และอีกมากมาย ทำให้มีคนใช้งานอย่างแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ถ้าไม่มี อินเทอร์เน็ต และ ไวไฟ เราจะไม่สามารถเก็บข้อมูล เรียกดูข้อมูล หรือแชร์ข้อมูลใดๆ ผ่านระบบคลาวด์ได้เลย

ในขณะเดียวกัน SSD พกพา ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตเลยในการเก็บข้อมูล ทำให้เราสามารถใช้งานได้ทุกที่ แม้ในที่ที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทันที ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องรอโหลดหรือมีปัญหาเรื่องสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ดี

ใช้ SSD พกพาก็เหมือนมีกระเป๋าเอกสารดิจิตอลไว้ติดตัวเลย จัดเก็บข้อมูลสำคัญๆ ได้อย่างปลอดภัย และเรียกใช้ได้เร็วทันใจ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์งาน, รูปภาพ, หรือวิดีโอ สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้ทั้ง แล็ปท็อป เดสก์ท็อป แท็บเล็ต และโทรศัพท์ แค่เรามีอะแดปเตอร์ USB ประเภทที่ถูกต้อง เราก็สามารถจัดเก็บข้อมูลหรือสลับระหว่างอุปกรณ์หลายเครื่องของเราได้ ซึ่งทำให้ชีวิตการทำงานหรือการใช้งานส่วนตัวสะดวกสบายขึ้นมากเลยทีเดียว

 

เหตุผลที่ยกมาทั้งหมดนี้ หวังว่าจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้มากขึ้น หากคุณเป็นคนที่ต้องทำงานกับข้อมูลจำนวนมากและต้องการความสะดวกในการพกพาข้อมูลไปที่ต่างๆ ก็ลองพิจารณา SSD พกพาดูน้า มันจะช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้นเยอะเลยย!

แต่ถึงอย่างนั้น SSD ก็ยังสามารถเกิดปัญหาหรือเสียหายได้เหมือนกัน เช่น ชิปหน่วยความจำเสียหายจากการใช้งานนานๆ หรือจากไฟฟ้าผิดปกติ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะ SSD สามารถนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญกู้ข้อมูลกลับคืนมาได้ อย่าง CR DATA RECOVERY ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูลโดยเฉพาะ กู้ผ่านห้อง LAB ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย  โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลสำคัญเหล่านั้นจะสูญหายไปตลอดกาล

ดูรายละเอียด ศูนย์กู้ข้อมูล CR DATA RECOVER เพิ่มเติม https://www.crecover.com/  หรือ ติดต่อสอบถาม โทร. 062-919-7966

 

 

6 อันดับ External Harddisk ที่มีความทนทานสูงสุด

6 อันดับ External Harddisk ที่มีความทนทานสูงสุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุปกรณ์เสริมอย่าง External Harddisk มีความสำหรับมากในการเก็บข้อมูลของคนยุคสมัยนี้  ที่ต้องมีติดโต๊ะทำงาน ดังนั้นการเลือก ฮาร์ดดิสก์ให้เหมาะกับการใช้งานก็มีความสำคัญมากๆเช่นกัน ยิ่งถ้ามีความทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการกระแทก สั่นสะเทือน หรือมีความจุในการเก็บข้อมูลเยอะยิ่งดีขึ้นไปอีก วันนี้เลยจะมาแชร์ 6 อันดับ External Harddiskที่มีความทนทานสูงสุดมาฝากทุกคนกัน

1. Western Digital Black

คือซีรีส์ อุปกรณ์เก็บข้อมูล WD Black ได้รับการออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานสูง มีเทคโนโลยีที่เพิ่มความแม่นยำและลดการสั่นสะเทือน ช่วยเพิ่มความเสถียรของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งไม่เพียงได้รับความนิยมแค่ในกลุ่มชาวเกมเมอร์เท่านั้น แต่บรรดานัก ตัดต่อรูปภาพ และวิดีโอ ก็ชอบซีรีส์นี้ด้วยเช่นกัน เพราะมันเป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูล ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความเร็วในการอ่านและเขียนในระดับที่สูง

ความจุ: ตั้งแต่ 1 TB ถึง 6 TB

 

2. Samsung Portable SSD T5

Samsung Portable SSD T5 ถูกออกแบบให้ไม่สามารถถอดหรือแยกชิ้นส่วนได้ อีกทั้งยังมีโครงสร้างภายในที่ทนทานต่อแรงกระแทก ตัวเครื่องทำจากโลหะ ช่วยลดความกังวลให้กับผู้ใช้ที่ทำโซลิดสเตตไดรฟ์แบบพกพานี้ตกจากความสูงในระยะ 2 เมตร มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงถึง 540 MBต่อวินาที เหมาะกับการใช้งานของทุกคน ทั้งผู้มีอาชีพด้านงานออกแบบ นักธุรกิจ ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

ความจุ: ตั้งแต่ 250 GB ถึง 2 TB

 

3. SEAGATE Backup Plus Portable

SEAGATE Backup Plus Portable Drives มีวัสดุผสมระหว่างพลาสติกสีขาวที่จัดว่าแข็งแรงดีที่เดียว ออกแบบให้เป็นไดร์ฟพกพาสำหรับผู้ใช้งานยุคใหม่ที่มาพร้อมความสวยงาม มีหลากหลายสีให้เลือกทั้ง สีเงิน ดำ เหมาะกับคนที่ต้องการเก็บข้อมูลเยอะๆ เก็บรูป หนังหรือไฟล์โปรแกรมต่างๆที่มีความจุสูง แต่ก็ยังอยู่ในขนาดที่สามารถพกพาได้อย่างสะดวก ไม่ต้องต่อไฟเพิ่มแบบฮาร์ดดิสค์พกพาชนิด 3.5 นิ้ว เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.0 เพียงเส้นเดียว

ความจุ: ตั้งแต่ 4 TB ถึง 16 TB

 

4. SanDisk Extreme Portable SSD

SanDisk Extreme Portable SSD เหมาะสำหรับการบันทึกและแก้ไขรูปภาพและวิดีโอที่มีความละเอียดสูง เหมาะกับนักเล่นเกมที่ต้องการความเร็วและประสิทธิภาพ หรือนักธุรกิจที่ต้องการความทนทานและความปลอดภัย SanDisk Extreme Portable SSD Portable มีการโอนข้อมูลด้วยความเร็วในการอ่านสูงถึง 550MB/วินาที7 มีความแข็งแรง ทนทานต่อการตกหล่นที่ระดับสูงถึง 2 เมตร กันน้ำและฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP55

ความจุ: ตั้งแต่ 500 GB ถึง 4 TB

 

5. LaCie Rugged RAID Pro

ส่วนใหญ่ช่างภาพจะใช้งาน External Harddisk ของทาง LaCie Rugged มาหลายปีแล้ว ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก แข็งแรง ทนทานด้วยตัวเครื่องทำจากอลูมีเนียม ภายนอกหุ้มด้วยเกราะยาง รองรับการตกกระแทกได้สูงถึง 1.2 เมตร นอกจากนี้ตัวเครื่องยังทนต่อการแตกหัก โดยผ่านการทดสอบ ด้วยแรงของรถยนต์หนัก 1 ตัน พร้อมคุณสมบัติมาตรฐาน IP54 กันน้ำ กันฝุ่น สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วให้ความเร็วได้สูงถึง 250 Mbps ซึ่งช่วยให้การส่งข้อมูลขนาด 100GB ได้ในเวลาไม่เกิน 5 นาที ตอบโจทย์ความต้องการ ของกลุ่มผู้ใช้งานประเภท ช่างภาพหรือช่างภาพวิดีโอ ซึ่งออกไปถ่ายงานเเต่ละที ไฟล์ภาพเเละฟุตเทจที่ถ่ายมานั้น มีขนาดใหญ่มาก ๆ

ความจุ: ตั้งแต่ 1 TB ถึง 5 TB

 

6. SanDisk Professional G-DRIVE ArmorATD

SanDisk Professional G-DRIVE ArmorATD มีประสิทธิภาพสูง ตัวอุปกรณ์ผลิตอย่างพิถีพิถันจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูงและมีกันชนช่วยปกป้องข้อมูลภายในจากการกระทบกระเทือนได้อย่างแน่นหนา ป้องกันแรงกระแทกจากการตกกระเทือนได้ดี แถมยังกันน้ำกันฝุ่นได้ในระดับ IP54 กันแรงกระแทกได้กว่า 1,000 ปอนด์ ทนทานต่อการตกหล่นจากที่สูงถึง 1.2เมตร ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ทำงานตามสถานที่ต่างๆหรือออกทริป อัตราการถ่ายโอนข้อมูลที่มีการอ่านเร็วถึง 140MB/s และเขียนได้เร็วถึง 130MB/s (1TB และ 2TB)

ความจุ: ตั้งแต่ 1 TB ถึง 5 TB

 

ครบแล้วกับ 6 External Harddiskที่มีความทนทานสูงสุด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านที่กำลังมองหาฮาร์ดดิสก์สักเครื่องไว้ใช้งานไม่มากก็น้อย แต่หากฮาร์ดดิสก์เครื่องเก่าหรือใหม่มีปัญหา เปิดไม่ติด ตกกระแทกพื้น ข้อมูลในไดร์ฟหาย ต้องการที่จะกู้ข้อมูลในเครื่องกลับคืนมา แนะนำศูนย์กู้ข้อมูล CR DATA RECOVERY  ให้บริการกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์ทุกชนิด ทุกกรณี ตรวจเช็คเร็ว เช็คเสร็จแจ้งอาการทันที ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย มีความน่าเชื่อถือด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ข้อมูลปลอดภัยแน่นอน

ติดต่อสอบถามได้ที่ : CR DATA RECOVERY

พิกัด : 238/48 ชั้น5, CR Data Recovery, ศรีวรา แมนชั่น 2 อาคาร, แขวงดินแดง ดินแดง กรุงเทพ

เบอร์โทร : 062-919-7966 , 093-093-5553

 

 

5 แบรนด์ External Harddisk ยอดนิยมในประเทศไทย

5 แบรนด์ External Harddisk ยอดนิยมในประเทศไทย

ใครที่เป็นสายเที่ยว สายคอนเทนต์จะเข้าใจดี ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องถ่ายรูป ถ่ายคลิปเก็บไว้ตั้งแต่เริ่มออกจากบ้านจนกลับถึงบ้าน พอจะเอาข้อมูลลงเครื่อง Dive คอมเต็มขึ้นสีแดงซะงั้น บางทีต้องจำใจลบไฟล์เก่าออกไปเพื่อนำไฟล์ใหม่เข้าไปแทน แต่มันจะมีปัญหาเกิดขึ้น ถ้าวันนึงต้องการนำไฟล์เก่ากลับมาแก้ไขใหม่ แต่ไฟล์ไม่อยู่แล้ว

ปัจจุบันจึงมี External Harddisk เป็นตัวช่วยเก็บข้อมูลสำรองของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งจะมีความจุมากพอหรือมากกว่าฮาร์ดดิสก์ตามปกติ ส่วนความจุก็เริ่มตั้งแต่ 512 GB ไปจนถึงหลาย TB เลยทีเดียว

ข้อดี

– มีความจุมาก

– พกพาสะดวก เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หลายเครื่องและนำไปใช้งานที่ต่างๆ ได้ง่าย

– ราคาไม่แพง

– มีอายุการใช้งานได้นานถึง 10-15 ปี

ข้อเสีย

– กินไฟ

– ประมวณผลช้ากว่า Hard Drive ภายในหรือ SSD ที่ใช้งานภายในเครื่อง

-บอบบาง พังง่ายถ้าโดนกระแทกบ่อย เพราะข้างในเป็นแบบจานหมุน

 

ในบทความนี้ Top on Thai จะมาแนะนำ 5 แบรนด์ External Harddisk ยอดนิยมในประเทศไทยมาฝาก จะมีแบรนด์ไหนบ้างไปดูเลยครับ

 

1. Western Digital HDD My Passport

– บางเบา พกพาสะดวก และมีหลายสีให้เลือก

– เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB 3.0/2.0 ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว

– รองรับ Windows 10 / 8 / 7 และ Mac OS

– ทำงานโดยซิงค์กับ Chromebook เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลพิเศษเพื่อให้จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นและทำงานที่ไหนก็ได้

– ปลอดภัยสูงด้วยการตั้งรหัสล็อกที่ฮาร์ดแวร์ AES 256 บิต

 

2. Toshiba Canvio V10

– ความเร็วในการโอนสูงขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี USB 3.2 Gen 1

– เข้ากันได้กับ อุปกรณ์ USB 2.0 ช่วยให้ถ่ายโอนได้อย่างรวดเร็ว

– อัตราการถ่ายโอน 5.0 กิกะบิตต่อวินาที

– ซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลอัตโนมัติ

– รักษาความปลอดภัยของข้อมูลและฮาร์ดไดรฟ์ด้วยรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำใคร

 

3. Seagate One Touch with Password

– ออกแบบขนาดพอเหมาะแก่การพกพา มีความจุให้เลือกได้ตั้งแต่ 1TB ถึง 5TB

– ข้อมูลปลอดภัยด้วยการตั้งค่ารหัสผ่าน

– ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานได้ : Windows 10/8/7 และ MacOS

– ถ่ายโอนข้อมูลได้ไวขึ้นด้วยพอร์ต USB 3.0 และ 2.0 ทำงานได้ทั้ง PC และ Mac ได้ทันทีโดยไม่ต้องรีฟอร์แมต

– ระบายความร้อนได้ดีด้วยวัสดุอะลูมิเนียม

– มีหลายสีให้เลือกตามความชอบ

– อัพเกรดระบบความปลอดภัยของข้อมูล ด้วยการตั้งรหัสล็อกข้อมูลใน HDD แบบ 256-AES ได้ด้วยตัวเอง ผ่าน Software Seagate Toolkits

 

4. Transcend External Hard Drive 25M3

– ออกแบบมาเพื่อป้องกันแรงกระแทก ผลิตจากวัสดุเกรดทางการทหาร หนาถึง 3 ชั้น

– พร้อมกับอินเทอร์เฟซ USB 3.1 Gen 1 รองรับ UASP (USB Attached SCSI Protocol) ให้การถ่ายโอนข้อมูลที่สะดวกสบายสูงสุด 5 Gbps

– มีสีเทาเหล็กและสีเขียวทหาร

– การ Backup ง่ายเพียงปุ่ม One Touch Auto-backup Button ปุ่มเดียว นอกจากนี้ยังรองรับ Transcend Elite Software เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายได้

 

5. Buffalo Ministation Extreme

– มีมาตรฐาน IPX3 สำหรับประสิทธิภาพการกันฝนและ IP5X เพื่อป้องกันฝุ่นละออง

– อินเทอร์เฟซ SuperSpeed USB 3.0 สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 5 Gbps

– รองรับการทำงานร่วมกับ USB 2.0 (อัตราการถ่ายโอนข้อมูล 480 Mbps)

– การเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ (การเข้ารหัส AES 256 บิตแบบเต็ม) ช่วยปกป้องข้อมูล

– มีช่องสำหรับเก็บสายไม่เกะกะ

 

สุดท้ายการตัดสินใจซื้อ External Harddisk ขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ หากต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมที่สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก หรือต้องการสำรองข้อมูลอย่างปลอดภัยและเป็นแบบออฟไลน์ External Harddisk เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด

แน่นอนว่าเมื่อมีการใช้งาน External Harddisk อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทั้งเครื่องตกกระแทกพื้น จู่ๆหาไดรฟ์ไม่เจอ HDD มีอายุใช้งานหลายปีทำให้เกิดการผุพัง แล้วต้องการหาศูนย์กู้ข้อมูลที่ปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ อย่าง CR DATA RECOVERY ศูนย์กู้ข้อมูลอันดับ 1 ตั้งอยู่ที่กรุงเทพมหานคร จากประสบการณ์หลายปีพร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ กู้ข้อมูลผ่านห้อง LAB ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

 

5 สัญญาณเตือน ว่าฮาร์ดดิสก์ของคุณมีปัญหา

5 สัญญาณเตือน ว่าฮาร์ดดิสก์ของคุณมีปัญหา

หลายคนพอจะทราบแล้วว่า ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD: Hard Disk Drive) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบแม่เหล็กที่ใช้ในการเก็บข้อมูลดิจิทัล ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วโลก การทำงานของฮาร์ดดิสก์อาศัยหลักการแม่เหล็กซึ่งใช้แผ่นดิสก์โลหะหรือแก้วเคลือบสารแม่เหล็กที่หมุนด้วยความเร็วสูงเพื่อบันทึกและอ่านข้อมูล แล้วเราจะสังเกตยังไงว่าฮาร์ดดิสก์กำลังมีปัญหาอยู่หรือเปล่า เราไปรู้จักกับ 5 สัญญาณเตือนกันเลย

  1. เกิดเสียงดังผิดปกติ

อาการนี้สามารถเกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งบ่งบอกถึงปัญหาที่อาจนำไปสู่ความเสียหายร้ายแรงของอุปกรณ์ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ฮาร์ดดิสก์มีเสียงดังผิดปกติคือ

– ชิ้นส่วนกลไกชำรุด: หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการชำรุดของชิ้นส่วนกลไกภายในฮาร์ดดิสก์ หากมีการสึกหรอหรือชำรุด อาจทำให้เกิดเสียงดังเช่นเสียงแกร่กๆ หรือเสียงกระทบกระแทก

– หัวอ่าน/เขียนชำรุด: หัวอ่าน/เขียนอาจเกิดการชนกระแทกกับพื้นผิวของแผ่นดิสก์ได้ ถ้าหัวอ่าน/เขียนหลุดจากตำแหน่งปกติหรือชำรุด มักจะทำให้เกิดเสียงคลิกๆหรือเสียงดังก้องภายในเครื่อง

– อาการติดขัดของมอเตอร์หรือแกนหมุน: ถ้ามอเตอร์หรือแกนหมุนที่ควบคุมการหมุนของแผ่นดิสก์มีปัญหา อาจทำให้เกิดเสียงผิดปกติเช่นเสียงดังหรือเสียงสั่น

 

  1. การเข้าถึงข้อมูลช้าลงอย่างมาก

หากฮาร์ดดิสก์ใช้เวลานานผิดปกติในการโหลดข้อมูลหรือระบบการทำงาน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าฮาร์ดดิสก์กำลังจะล้มเหลว มีหลายสาเหตุ เช่น มีการใช้งานมานานหลายปีอาจมีประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากชิ้นส่วนภายในสึกหรอ ซึ่งอาจส่งผลให้การเข้าถึงข้อมูลช้าลง หรือ การทำงานของแอปพลิเคชั่นหลายๆ ตัวพร้อมกันอาจใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์มากจนเกินไป ทำให้การเข้าถึงข้อมูลช้าลง ควรตรวจสอบและปิดโปรแกรมที่ไม่จำเป็น

 

  1. ไฟล์เสียหายหรือหาข้อมูลไม่เจอ

ขณะที่เรากำลังใช้งานอยู่แล้วไฟล์ข้อมูลต่างๆหายไป หาข้อมมูลไม่เจอเลย อาการนี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฮาร์ดดิสก์ใกล้พัง สาเหตุอาจเกิดจาก

– การดับไฟฟ้ากะทันหันหรือการถอดฮาร์ดดิสก์ออกจากคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้ถอนการใช้งานอย่างปลอดภัยอาจทำให้ระบบไฟล์เสียหาย

– การเสื่อมสภาพของสารแม่เหล็กอาจทำให้ข้อมูลเสียหายหรือไม่สามารถเข้าถึงได้

– การติดไวรัส ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายสามารถทำลายไฟล์หรือระบบไฟล์ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลหายหรือเสียหายได้

 

  1. ระบบบูต (Boot) ไม่ได้

การใช้ฮาร์ดดิสก์บ่อยครั้งบนคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นอาจทำให้ฮาร์ดดิสก์ติดไวรัส ซึ่งทำให้ไม่สามารถบูตได้  อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการขีดข่วนฮาร์ดดิสก์ที่เก็บข้อมูลการบูตทำให้ไม่สามารถอ่านได้ และทำให้ไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าถึงได้

 

  1. เครื่องค้างบ่อย หน้าจอขึ้นสีฟ้า (Blue Screen Of Death)

หน้าจอฟ้า Blue Screen Of Death (BSOD) มีชื่อเรียกที่เป็นทางการว่า Stop Screen หรือ Stop Error โดยทั่วไปหน้าจอสีน้ำเงินมีสาเหตุมาจากปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์หรือปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ไดรเวอร์ฮาร์ดแวร์ บางครั้งอาจเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ระดับต่ำที่ทำงานในเคอร์เนล Windows หรือข้อผิดพลาดร้ายแรงของไดรเวอร์ แอพทั่วไปจะไม่ค่อยทำให้เกิดหน้าจอสีน้ำเงินได้ นอกจากแอปขัดข้อง แอปจะดำเนินการโดยไม่ต้องนำระบบการทำงานออกไปด้วย วิธีแก้ไขคือการย้อนกลับหรือถอนการติดตั้งไดรเวอร์ หรืออาจติดตั้งใหม่ เนื่องจากการติดตั้งครั้งแรกอาจเสียหายได้

 

ปัญหาของฮาร์ดดิสก์อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ดังนั้นคุณควรเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่เสมอ และสำหรับการสำรองข้อมูลตามปกตินี้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด การสำรองข้อมูลเป็นประจำสามารถช่วยให้ลดการสูญหายของข้อมูลที่สำคัญได้ นอกจากนี้การถ่ายโอนข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์หนึ่งไปยังอีกฮาร์ดดิสก์หนึ่งไม่ได้ยุ่งยากมากนัก ดังนั้นการสำรองข้อมูลที่ดีจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการกับปัญหาข้อมูลสูญหาย

หวังว่าบทความข้างต้น จะเป็นประโยชน์ในการสังเกตความผิดปกติของฮาร์ดดิสก์เพื่อให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมในการดูแลฮาร์ดดิสก์ในขั้นตอนต่อไปค่ะ  หากPCของคุณขัดข้องหรือแฮงค์บ่อยครั้ง ส่วนประกอบฮาร์ดดิสก์ของคุณอาจเสื่อมสภาพ วิธีการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นมีความน่าเชื่อถือและเป็นแค่แนวทางในการสังเกตเท่านั้น แต่วิธีที่ดีที่สุดคือปรึกษาจากบริษัทกู้คืนข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น CR Data Recovery ศูนย์กู้ข้อมูลอันดับ1

 

สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

🔎   กู้ข้อมูล CR Data Recovery

โทร: 062-919-7966 , 093-093-5553

Line ID: @crecover

3 ศูนย์กู้ข้อมูลในกรุงเทพมหานคร

3 อันดับ ศูนย์กู้ข้อมูล ในกรุงเทพมหานคร

การสูญเสียข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์ (HDD) เป็นเรื่องที่น่าหนักใจและมีผลกระทบต่องานและชีวิตส่วนตัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟล์สำคัญ, รูปภาพ, หรือเอกสารต่างๆ ในประเทศไทยเรามีศูนย์กู้ข้อมูลมากมายที่ให้บริการกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและมืออาชีพที่มีความสามารถสูง วันนี้เลยมาแนะนำ 6 ศูนย์กู้ข้อมูลในกรุงเทพเผื่อฮาร์ดดิสก์มีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือในการกู้ข้อมูลกลับมา

1. ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery กู้ข้อมูลอันดับหนึ่ง

ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery กู้ข้อมูลอันดับหนึ่ง เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการกู้ข้อมูลในกรุงเทพฯ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี พวกเขาเชี่ยวชาญในการกู้ข้อมูลจากทุกประเภทของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น HDD, SSD, RAID array, External Harddrive  และอื่นๆ ด้วยห้องแล็บมาตรฐาน ISO Class 100 พร้อมให้บริการกู้ข้อมูลภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและควบคุมอย่างเข้มงวด ข้อมูลของลูกค้าสำคัญไม่รั่วไหล

 CR Data Recovery

238/48 ชั้น 5 อาคารศรีวราแมนชั่น 2 ซ.นาทอง 3 ถ.รัชดาภิเษก แขวง/เขต ดินแดง กทม.

 062-919-7966 , 093-093-5553

 @crecover

 

2. ศูนย์กู้ข้อมูล ATL Data Recovery รับกู้ข้อมูล

ATL Data Recovery รับกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสเสีย WD Seagate กู้ข้อมูลงานระบบ Synology Qnap NAS Server ทุกยี่ห้อ กู้ข้อมูลเมมโมรี่การ์ด SD Sandisk Kingston และ หน่วยความจำทุกชนิดด้วยเครื่องมือที่ดีที่สุด กู้ไม่ได้ไม่คิดเงิน

  ATL Data Recovery

  สำนักงาน อาคาร Exchange Tower ชั้น 29

 

3. ศูนย์กู้ข้อมูล IDR LAB

เป็นศูนย์กู้ข้อมูลขนาดใหญ่ในกรุงเทพที่ใครหลายคนอาจคุ้นตากันมาบ้างแล้ว มีการรับรองคุณภาพ ISO 9001:2015 โดยสถาบัน MASCI ได้มาตรฐานระดับสากล มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ศูนย์กู้ข้อมูล IDR LAB

 เลขที่ 4 ซอยบางนา-ตราด25 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ

  02-744-1911

  @idrlab

 

 

5 อันดับศูนย์กู้ข้อมูลยอดนิยมในประเทศไทย

5 อันดับศูนย์กู้ข้อมูลยอดนิยมในประเทศไทย

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจของตัวฮาร์ดดิสก์ (HDD) กันก่อนค่ะ ตัวฮาร์ดดิสก์ เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้แม่เหล็กในการเก็บข้อมูลดิจิทัลบนแผ่นดิสก์หมุนเร็ว ซึ่งเรียกว่าพลาตเตอร์ ที่หมุนอยู่ภายใต้หัวอ่าน/เขียนที่เคลื่อนที่ได้ ฮาร์ดดิสก์ถูกใช้เป็นหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์เพราะสามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากและเก็บข้อมูลไว้ได้ถาวร แม้ว่าจะปิดเครื่องไปแล้วก็ตาม ผู้คนใช้ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บข้อมูลเช่น โปรแกรมแอพพลิเคชัน และไฟล์สื่อต่างๆ

มีหลายคนกำลังเจอปัญหา ฮาร์ดดิสก์เสียเปิดไดรฟ์ไม่เจอ ซึ่งมีไฟล์สำคัญๆในนั้นเยอะเลย แต่ไม่รู้จะเอาไปกู้ข้อมูลกลับคืนมาที่ไหนดี วันนี้เราเลยจะมาแชร์ ศูนย์กู้ข้อมูล 5 อันดับที่ยอดนิยมในประเทศไทย ที่หลายคนใช้บริการแล้วดีมากๆค่ะ

1.ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery กู้ข้อมูลอันดับหนึ่ง

CR Data Recovery การันตีด้วยประสบการณ์การกู้ข้อมูลมานานกว่า 20 ปี โดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการกู้ข้อมูลโดยเฉพาะทั้ง PC , Notebook , External Hard Drive , SSD , Raid และอื่นๆ สำหรับใครที่กังวลว่าข้อมูลลูกค้าจะรั่วไหลไหม ทางศูนย์ยืนยันการให้บริการทุกการกู้ข้อมูลขึ้นมาจะถูกเก็บไว้เป็นความลับ 100%  บริการลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำมากกว่า 100 บริษัทในประเทศไทย ใครที่ใช้บริการ ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลปลอดภัยแน่นอน

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : www.crecover.com

ที่ตั้ง : 238/48 ชั้น 5 อาคารศรีวราแมนชั่น 2 ซ.นาทอง 3 ถ.รัชดาภิเษก แขวง/เขต ดินแดง กทม.10400

เบอร์ติดต่อ : 062-919-7966 , 093-093-5553

Line : @crecover

 

2. ศูนย์กู้ข้อมูล IDR LAB กู้ข้อมูลที่ดีที่สุดอันดับ 1

IDR LAB เป็นศูนย์กู้ข้อมูลห้อง lab ให้บริการกู้ข้อมูล HDD อุปกรณ์ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ความเสียหายต่างๆ สำหรับข้อมูลของลูกค้าทางศูนย์รักษาความลับ ป้องกันข้อมูลรั่วไหลได้จริงด้วยคุณภาพ ISO 9001:2015 มาตรฐานสากล

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.idrlab.com/research-director

ที่ตั้ง : เลขที่ 4 ซอยบางนา-ตราด25 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260

เบอร์ติดต่อ : 02-744-1911

Line : @idrlab

 

3. ศูนย์กู้ข้อมูล CHIN Data Recovery

ด้วยประสบการณ์มากกว่า 18 ปี ศูนย์ CHIN Data มีความเชี่ยวชาญด้านการกู้ข้อมูล ทั้งยังให้ความสำคัญกับข้อมูลที่จะกู้ได้ และไม่ทำความเสียหายใดๆ เพิ่มเติมลงไป ใช้เครื่องมือเทคโนโลยีที่ทันสมัย กู้ข้อมูลด้วย Cleanroom ที่ได้รับสามารถโทรปรึกษา เพื่อประเมินปัญหาเบื้องต้นได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.chindata.com/

ที่ตั้ง : 606 ถนน ซอยสามัคคี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี 11000

เบอร์ติดต่อ : 081-422-4150

Line : 0814224150

 

4. ศูนย์กู้ข้อมูล ATL Data Recovery รับกู้ข้อมูล อันดับ1 ดีที่สุด ส่งเช็คฟรี

 

หากกำลังมองหาศูนย์กู้ข้อมูล ATL Recovery รับกู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์เสีย กู้ข้อมูล NAS Synology Qnap กู้ข้อมูลเมมโมรี่การ์ด SD Sandisk Kingston และหน่วยความจำทุกชนิด ส่งเช็คฟรี ให้บริการกว่า 5 หมื่นเคส มีสัญญารักษาความลับ ของลูกค้าที่ชัดเจน

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.atlrecovery.net/

ที่ตั้ง : สำนักงาน อาคาร Exchange Tower ชั้น 29

จุดรับส่งสาขาย่อย : อาคาร The Metropolis สำโรง ชั้น 3

เบอร์ติดต่อ : 081-318-4466

Line : @ATLRecovery

 

5. ศูนย์กู้ข้อมูล AJ.RECOVERY

AJ.RECOVERY ให้บริการกู้ข้อมูล Computer Harddisk , External Harddisk หรือ Server Harddisk  แม้แต่เคสที่ข้อมูลถูกลบ หรือ formatไป

 

📍 พิกัดศูนย์กู้ข้อมูล : https://www.ajrecoveryservice.com/

ที่ตั้ง : 29 BBC Building ซ.สุขุมวิท 63(เอกมัย) ถ.สุขุมวิท

คลองตันเหนือ วัฒนา กทม. 10110.

เบอร์ติดต่อ : 083-893-0209

Line : @600atkrv

 

สุดท้ายนี้การเลือกศูนย์กู้ข้อมูลฮาร์ดดิสก์ เป็นสิ่งสำหรับที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญของเราจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยเหมาะสม